ทานมัย (บุญอันเกิดจากการให้ทาน)
ทานมัย แห่งบุญกิริยาวัตถุ 10 คือ บุญที่เกิดจากการให้ทาน คือ บุญที่มาจาการสละซึ่งทรัพย์ สิ่งของ ความรู้ อวัยวะหรือชีวิตของตนให้แก่ผู้อื่น เพื่อให้ผู้นั้นพ้นจากทุกข์ เมื่อเขาลดหรือพ้นจากทุกข์แล้ว ย่อมยังให้กุศลที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่นมาถึงตนด้วยเช่นกัน ประกอบกับจิตขณะให้ทานนั้น ประกอบขึ้นด้วยการละซึ่งความเห็นแก่ตัว ความตระหนี่ถี่เหนียว ย่อมยังผลแห่งจิตที่ละแล้วซึ่งกิเลสนั้น กลายเป็นส่วนบุญมายังตนเช่นกัน
2. ปัตติทานมัย (บุญอันเกิดจากการอุทิศ และร่วมอุทิศ)
ปัตติทานมัย แห่งบุญกิริยาวัตถุ 10 คือ บุญที่เกิดจากการตั้งจิตอุทิศส่วนบุญหรือผลกรรมที่ตนได้ทำมาให้แก่ผู้อื่น ผู้ที่มีบุพการี หรือสรรพสิ่งทั้งปวง และยังรวมหมายถึงจิตที่เกิดจากการยินดีที่ผู้อื่นที่ได้ร่วมทำกุศลหรืออุทิศกุศลนั้นๆ จิตที่เต็มเปี่ยมด้วยการตั้งมั่นในการอุทิศนี้ ย่อมมาจากจิตอันบริสุทธิ์ และเป็นจิตที่เกิดจากกุศล ดังนั้น บุญกุศลที่เกิดแต่จิตแห่งการอุทิศนี้จึงยังผลมาสู่ตนด้วยเช่นกัน
3. ปัตตานุโมทนามัย (บุญอันเกิดจากการอนุโมทนา)
ปัตตานุโมทนามัย แห่งบุญกิริยาวัตถุ 10 คือ บุญที่เกิดจากการตั้งจิตอนุโมทนาต่อความดีที่ผู้อื่นได้กระทำ จิตที่มีจิตอนุโมทนานี้ ย่อมเกิดจากจิตที่บริสุทธิ์ และเห็นชอบกับความดีของผู้อื่น จึงยังจิตให้เกิดแต่ความสงบ และความยินดีในกุศลนั้นๆ กุศลนั้นจึงเกิดแก่ตนด้วยเช่นกัน
หมวดศีล
4.
- หลักการกิน 10 ประการ เพื่อให้แลดูอ่อนกว่าวัย
- บุญกิริยาวัตถุ 10 และบุญกิริยาวัตถุ 3 | thaihealthlife.com รวมสาระสุขภาพกาย และจิต
หลักการกิน 10 ประการ เพื่อให้แลดูอ่อนกว่าวัย
ศีลมัย
ศีลมัย แห่งบุญกิริยาวัตถุ 3 บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล หมายถึง การทำบุญด้วยการรักษาศีล คือ ประพฤติตนให้ดีให้อยู่ในธรรมทั้งกาย วาจา และจิตใจ
ศีล แปลว่า ปรกติ คือ การปฏิบัติที่รู้จักควบคุมกาย วาจา และใจ ของตนไว้ให้บริสุทธิ์หรือมีความสงบ ศีล เป็นเครื่องควบคุมโทสะหรือความโกรธ เมื่อรักษาศีลได้ ย่อมได้บุญกุศล และคงไว้ซึ่งบุญเก่า กล่าวคือ เป็นการขจัด และลดกิเลส คือ ความโกรธมิให้เกิดขึ้นได้ พร้อมกับก่อเกิดบุญใหม่ คือ จิตใจมีความตั้งมั่น และมีความสงบ ไม่เกิดโทสะทั้งปวง และพร้อมที่จะรักษาศีลให้มั่นคงทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต
ประเภทของศีล
1. โลกียศีล ได้แก่ ศีล 5 เป็นพื้นฐาน ซึ่งเป็นศีลพื้นฐานของปุถุชน ส่วนศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 เป็นศีลที่ขยายมาจากศีล 5 ผู้ที่เจริญในศีลทั้งหลายนี้ ยังคงเวียนว่ายในวัฏสงสาร
2.
หลักการกิน 10 ประการ เพื่อให้แลดูอ่อนกว่าวัย หลายคนคงไม่มีใครอยากดูแก่กว่าวัย หรือแก่สมวัยกันใช่ไหมคะ? หลายคนคงไม่มีใครอยากดูแก่กว่าวัย หรือแก่สมวัยกันใช่ไหมคะ?
การทำบุญนั้นเราทำบุญได้ทุกโอกาสและตลอดเวลา สำหรับตัวผู้เขียนเองไม่อยากจะให้ชาวพุทธเน้นทำบุญเฉพาะเทศกาลแต่อยากให้ชาวพุทธทำบุญทุกวัน โดยวิธีการทำบุญที่เป็นการขัดเกลา ขจัดความเห็นแก่ตัวให้เบาบางจางหายลงไปบ้างเพราะถ้าจะทำให้เจ้าตัวกิเลสนั้นหมดไปเลยคงเป็นได้ยาก บุญที่เราสามารถทำได้ตลอดเวลาทุกวันไม่ต้องรอถึงวันพระมีอยู่10 ข้อง่ายๆดังนี้
1. การให้ทาน ประกอบด้วย ให้วัตถุสิ่งของ ให้ธรรมะ และให้อภัย สังเกตใจทุกครั้งที่มีโอกาสให้ทานว่า ให้ด้วยความเต็มใจ เปี่ยมสุขหรือมีสิ่งใดตกค้างขัดขวางอยู่บ้าง ก็สลัดออกไป
2. การสมาทานศีล คือความตั้งใจที่จะงดเว้นจากการกระทำที่เบียดเบียนตนเอง และเบียดเบียนผู้อื่น เพราะเห็นโทษของการกระทำนั้นๆและเต็มใจสลัดขัดเกลาอย่างเต็มสติกำลัง
3. การภาวนา คือการเฝ้าระวังรักษาใจมิให้เผลอไผลสร้างตัวตนขึ้นมาก่อทุกข์ เพราะเกิดความรู้สึกตัวตนครั้งหนึ่ง กระบวนการเกิดทุกข์ยกโขยงมาทั้งขบวน เมื่อใจไม่ต้องแบกตัวตน ก็กลายเป็นใจเบา หรือเบาใจนี้แหละคือใจในขณะที่ว่างจากตัวตน
4. ความอ่อนน้อมถ่อมตน การแสดงความอ่อนโยนหรือ อ่อนน้อมถ่อมตนที่แท้คือวิธีการลดตัวตนชนิดหนึ่ง การทำบุญที่ง่ายที่สุด ได้ผลมากไม่แพ้วิธีอื่นๆก็คือการอ่อนน้อมถ่อมตนนี้เอง
5.
บุญกิริยาวัตถุ 10 และบุญกิริยาวัตถุ 3 | thaihealthlife.com รวมสาระสุขภาพกาย และจิต
- Ran พระ pow youtube
- บุญกิริยาวัตถุ 10 และบุญกิริยาวัตถุ 3 | thaihealthlife.com รวมสาระสุขภาพกาย และจิต
- ทศพิธราชธรรม - วิกิพีเดีย
- Wrangler blue bell ราคา iphone
- "บุญกิริยาวัตถุ 10" ทำบุญ 10 วิธี - Thaihealth.or.th | สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
- 10 ทศพิธราชธรรม - ธรรมที่พ่อสอน (ทาน)
- งาน tesco lotus expo 2019
ขุ. ชา.
กินวิตามินที่ได้จากพืช และสัตว์ วิตามินธรรมชาติมีคุณภาพสูงกว่าวิตามินสังเคราะห์ ยิ่งถ้าเราถูกกระทบจากความเครียดมาก ร่างกายยิ่งต้องการวิตามิน และเกลือแร่ทดแทนมากกว่าคนปกติ 5. ควรเน้นผัก และผลไม้สด อาหารในแต่ละวันควรเป็นผักสด และผลไม้ประมาณ 70% อีก 30% ควรเป็นอาหารประเภทอื่น ๆ เพราะจะเป็นการเพิ่มพลังตับสูงให้แก่ร่างกาย จะเห็นได้จากนักกีฬาชั้นนำระดับโลกต่างหันมาบำรุงร่างกายด้วยผัก และธัญพืชกันมากขึ้น 6. หลีกเลี่ยงอาหารปรุงแต่ง ได้แก่ อาหารหวานจัด อาหารสำเร็จรูป อาหารที่มีสารเคมีเป็นส่วนผสม และโซเดียมซึ่งมีอยู่ในเกลือ ผงชูรส ผงฟู และสารผสมอาหารต่าง ๆ อาหารเหล่านี้ไม่มีคุณค่าแต่กลับมีโทษต่อร่างกาย 7. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะร่างกายเราประกอบด้วยน้ำ 60-70% แต่ละวันเราสูญเสียน้ำไป 6-8% ของจำนวนน้ำทั้งหมด น้ำจะเป็นตัวพาสารอาหารไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ควรดื่มน้ำสะอาดก่อนหรือหลังอาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำย่อยทำงานเต็มที่ และเมื่อตื่นนอนในตอนเช้า ควรดื่มน้ำ 3-5 แก้ว งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และแอลกอฮอล์ เนื่องจากน้ำอัดลม และน้ำเกลือแร่ไม่มีคุณค่าอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย 8.
ปัตตานุโมทนามัย
บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ ยินดีในความดีของผู้อื่น
8. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม คือ
รับฟังความรู้ที่เป็นประโยชน์ เพื่อชำระจิตใจให้บริสุทธิ์
และตั้งอยู่ในความเห็นที่ดีงาม
9. ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม คือ
การถ่ายทอดความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
10. ทิฏฐุชุกัมม์
บุญสำเร็จด้วยการทำความเห็นให้ตรง คือ
การใช้ปัญญาไตร่ตรองอยู่เสมอว่าอะไรผิด อะไรถูก
ทานมัย การให้ทานมีวัตถุประสงค์ เพื่อขจัดความตระหนี่
ความโลภในจิตใจมนุษย์ และการให้ทานยังมีจุดประสงค์อย่างอื่น ได้แก่
เพื่อบุชาคุณ เพื่อการสงเคราะห์ เพื่ออนุเคราะห์
เพื่อทำคุณ การทำทานมี4ประเภทคือ 1)
อามิสทาน ได้แก่ การให้วัตถุสิ่งของต่างๆ 2) วิทยาทาน
ได้แก่การให้ความรู้ทางโลกแก่บุคคลอื่น 3) ธรรมทาน ได้แก่
การให้ความรู้ทางธรรม 4)อภัยทาน ได้แก่ การให้อภัยซึ่งกันและกัน
การให้ทานที่กล่าวมานั้น " การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง
(ธม. มทานํ สพ.
เจริญภาวนา หรือภาวนามัย เป็นการทำบุญอีกรูปแบบ ที่มุ่งพัฒนาจิตใจและปัญญา ทำให้จิตใจสงบ เห็นคุณค่าสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง ซึ่งในข้อนี้หลายคนอาจจะทำเป็นประจำอยู่แล้ว เช่น นั่งสมาธิ วิปัสสนา แต่หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องยากเกินกำลัง ดังนั้น อาจจะทำง่ายๆ ด้วยวิธีการสวดมนต์เป็นคาถาสั้นๆ บูชาพระที่เราเคารพบูชาก่อนนอนทุกคืน เช่น คาถาพระพุทธเจ้าชนะมาร คาถาหลวงปู่ทวด เป็นต้น การสวดมนต์เป็นประจำ อย่างน้อยก็เป็นการน้อมนำจิตใจของเรา ไปสู่สิ่งที่เป็นมงคลในชีวิต เป็นการเตือนสติให้เรายึดมั่นในการประพฤติปฏิบัติชอบ ตามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรานับถือ และผลบุญข้อนี้จะทำให้เกิดปัญญาแก่ผู้ปฏิบัติ 4. การอ่อนน้อมถ่อมตน หรือ อปจายนมัย หลายคนคงคิดไม่ถึงว่า การประพฤติตนเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน จะถือเป็นบุญอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ ก็เพราะว่าการอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ว่าจะเป็นผู้น้อยประพฤติต่อผู้ใหญ่ และการที่ผู้ใหญ่แสดงตอบด้วยความเมตตา หรือการอ่อนน้อมต่อผู้มีคุณธรรม รวมถึงการให้เกียรติ ให้ความเคารพต่อความคิด ความเชื่อ และวิถีปฏิบัติของบุคคล หรือสังคมอื่นที่แตกต่างจากเรานั้น เป็นการลดความยึดมั่นถือมั่นในความเป็นตัวตนของเรา ช่วยให้สังคมทุกระดับเกิดความเข้าใจต่อกัน และช่วยให้ชาติบ้านเมืองเกิดความสงบสุข จึงถือเป็นบุญอย่างหนึ่ง ผลบุญข้อนี้จะทำให้เกิดความเมตตาต่อกัน 5.
- ร ล ลงประกาศฟรี
- ภาษาเขมร แปล
- หนัง ใหม่ ไม่ สะดุด
- Jo malone ราคา เคาน์เตอร์
- เพลง รถไฟ ไทย
- โรค พังผืด เกิด จาก อะไร บาง
- ช วง เจีย ป่น
- จ ผ ส 1
- ร้าน ขาย ส กิน แคร์ โบรคเกอร์
- Anime บา ส
- จำนำ จอด โคราช
- สายรุ้ง เกิด จาก
- Google adwords สอน real estate
- Supersport เก็บ เงิน ปลายทาง ไม่ได้
- เกม มา ย ครา ฟ 1.94.com